นายห้างประสิทธิ์ อัคคะประชา หรือที่คนใกล้ชิดเรียกกันว่า “นายห้างตี๊”
เป็นผู้ที่สืบทอดการค้าขายสมุนไพรมาตั้งแต่รุ่นเตี่ย อายุเพียง 7-8 ขวบ ก็ติดไปในเรือรับซื้อสมุนไพรของเตี่ย พายไปตามคลองบางเขน รับสมุนไพรจากชาวสวนมาขายต่อ
นายห้างเป็นคนที่มีหัวการค้ามาตั้งแต่เด็ก ในช่วงที่มีเวลาเหลือจากการขายสมุนไพร
ก็ไปหาสินค้าที่เป็นที่ต้องการมาขายเพิ่มอีก เช่น ชวนเพื่อนพายเรือไปรับปลาทูและหอยแมลงภู่มาขายช่วงตลาดเช้า
หรือลงทุนไปรับไอศกรีมมาพายขายในช่วงอากาศร้อน
นายห้างประสิทธิ์รู้ว่าตลาดยาสมุนไพรมีโอกาสเติบโตอีกมาก แต่ก็มีการแข่งขันสูงและมีเจ้าใหญ่ๆ ในตลาดอยู่หลายเจ้า แต่ผู้ใหญ่ที่ท่านเคารพรักได้ให้ข้อคิดไว้ว่า “แม้ไข่ไก่ก็ยังมีรู” ซึ่งหมายถึงไม่ว่าอย่างไรก็จะมีช่องทางในการทำธุรกิจเสมอ นายห้างจึงคิดต่อยอดจาก “ร้านสมุนไพรง่วนเฮงจั่น” ที่เปิดมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2515 ถ้าจะคิดไปข้างหน้า ต้องทำให้สมุนไพรแห้งที่มีอยู่กลายเป็น “ยาสมุนไพร” ให้ได้
บริษัท ห้างขายยาตราใบห่อ จำกัด จึงเกิดขึ้นพร้อมๆ กับการหาช่องว่างทางการตลาด คือ “ยาขมตอกเม็ด” เจ้าแรกของประเทศไทย ทำให้ผู้บริโภครับประทานยาขมได้ง่ายขึ้น จากเดิมที่มีแต่แบบผง ซึ่งต้องหาน้ำร้อนหาแก้วมาชง
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา นายห้างประสิทธิ์ได้พา “ตราใบห่อ” เดินทางด้วยหลักการที่ยึดถือมาตลอดคือ อยากให้คนไทยมียาสมุนไพรคุณภาพดีและราคาไม่แพง และด้วยความรักในสมุนไพร ท่านได้สร้างสินค้าทั้งยาสมุนไพรเดี่ยวและตำรับรวม 15 รายการ และยังรวบรวมและคิดค้นสูตรตำรับยาสมุนไพรเก็บไว้อีกกว่า 80 ตำรับ เพราะเล็งเห็นว่านี่คือมรดกและภูมิปัญญาที่มีค่าในการดูแลสุขภาพของคนไทยต่อไปในอนาคต
คุณประสิทธิ์ให้ความสำคัญใน
เรื่องความซื่อสัตย์และจริงใจ
เพราะยาสมุนไพรที่ได้คุณภาพ
สูตรยาที่ถูกต้องตามตำรับ
จะทำให้คนไทยมีสุขภาพดีได้
คุณประสิทธิ์จะทดลอง
รับประทานยาสมุนไพรทุกตำรับ
ด้วยตัวเอง รวมถึงคนใน
ครอบครัวด้วย
ด้วยประสบการณ์ด้านสมุนไพร
ที่ยาวนาน ทำให้คุณประสิทธิ์
มั่นใจว่าธุรกิจสมุนไพรเป็นธุรกิจ
หนึ่งจะเติบโตไปได้แบบยั่งยืน
เพียงแต่ต้องทำให้ชื่อแบรนด์
“ตราใบห่อ” เป็นที่รู้จักของ
คนไทยให้ได้
“ถ้าทำเหมือนคนอื่น เราก็จะมียา
อีกชนิดที่ไม่ต่างจากคนอื่นเขา”
ในสมัยนั้นมียาผงชงน้ำต็มท้องตลาด เครื่องตอกเม็ดยังไม่มี
ถ้าจะทำก็ต้องเพิ่มส่วนผสมเพื่อให้ผงยาสามารถเกาะตัวกันได้ โดยไม่ลดผลของสรรพคุณยา และใช้เครื่องมือแบบบ้านๆ เพื่ออัดให้เป็นเม็ด
คุณประสิทธิ์คิดค้นวิธีนี้อยู่ระยะหนึ่ง
ในที่สุดตราใบห่อก็ได้แจ้งเกิดกับ “ยาขมตอกเม็ด” เจ้าแรกของไทย
ตราใบห่อเดินทางมาได้ตลอด
ระยะเวลากว่า 40 ปี ก็เพราะ
สามารถเข้าถึงวิถีชีวิตของคนไทย
ผ่านวัฒนธรรมด้านต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นเพลงลูกทุ่ง เวทีมวย งานวัด หนังขายยา ไม่ว่าอะไรที่จะทำให้วัฒนธรรมเหล่านี้ไม่สูญหาย คุณประสิทธิ์จะ
ให้การสนับสนุนอยู่เสมอ
เมื่อ 40 กว่าปีก่อน จะมีพื้นที่โฆษณาไม่มากนัก ถ้าเป็นสินค้าที่ต้องการเข้าถึงคนจำนวนมาก
ก็ต้องโฆษณาผ่านกิจกรรมที่คนส่วนใหญ่ในสมัยนั้นนิยม เช่น วงดนตรีลูกทุ่ง รถเร่ขายยาตามหมู่บ้าน หรือเวทีมวยที่มีคนดูทั่วประเทศ “ตราใบห่อ” โฆษณาผ่านทุกช่องทางที่สามารถเข้าถึงคนไทยได้
โดยเฉพาะเวทีมวย ซึ่งเป็นกีฬาคุณประสิทธิ์ชื่นชอบและยินดีให้การสนับสนุนอยู่แล้ว
ตลอดระยะเวลากว่า 40 ปี “ตราใบห่อ” ได้ให้การสนับสนุนวงการมวยและนักมวยมาหลายต่อหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็นนักกีฬามวยไทยหรือมวยสากล ตั้งแต่วันที่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน
คุณอิศรา อัคคะประชา หนึ่งในผู้บริหารในรุ่นที่ 2 ของตราใบห่อที่ก้าวเข้ามาพร้อมกับแนวคิดในการรักษา ปรับเปลี่ยน และพัฒนา
“รักษา” ความซื่อสัตย์และจริงใจที่ผู้บริหารในรุ่นก่อตั้งได้สร้างไว้อย่างเข้มแข็ง หลักการนี้ซึมซาบอยู่ในสายเลือดของคนในองค์การทุกคนตั้งแต่วันแรกจนถึงทุกวันนี้
“ปรับเปลี่ยน” แผนงานจากแพลตฟอร์มเดิมเข้าสู่แพลตฟอร์มใหม่ เน้นเรื่องการจัดระบบและวางโครงสร้างขององค์กรให้กระชับมากขึ้น เพื่อให้พร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วในยุคปัจจุบัน
“พัฒนา” มุ่งสู่ความเป็นมาตราฐานทั้งด้านการผลิตและการทำงานในองค์กร หานวัตกรรมให้กับสินค้าเพื่อสามารถตอบโจทย์กับความต้องการของลูกค้าได้ตรงจุดมากขึ้น
กรรมการบริหารและผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ห้างขายยาตราใบห่อ จำกัด
เป็นผู้นำด้านยาสมุนไพรไทย 1 ใน 5 ของประเทศไทย
“ตอบสนองความต้องการในการดูแลและรักษาสุขภาพของลูกค้าด้วยยาสมุนไพรที่มีคุณภาพดี รวมถึงคิดค้นและหานวัตกรรมใหม่เพื่อให้เกิดการนำสมุนไพรมาใช้ได้อย่างยั่งยืน”
เจ้าตำรับ “ยาขม” ชนิดตอกเม็ดเจ้าแรกของประเทศไทย จุดเริ่มต้นของยาสมุนไพรไทยคุณภาพดี
“ตราใบห่อผลิตยาสมุนไพรคุณภาพดี และราคาที่เหมาะสม เพื่อให้คนไทยมียาสมุนไพรดีๆ
ไว้ดูแลสุขภาพของตนเอง”
ปรับตัวตามโลกที่กำลังเปลี่ยนไป ตอบสนองความต้องการของลูกค้าในการดูแลสุขภาพ
ด้วยสมุนไพร